เทคโนโลยีของระบบ 5G 

เทคโนโลยีของระบบ 5G 

ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5G เป็นเครือข่ายดิจิตอลเซลลูลาร์ที่ผู้ให้บริการจะแบ่งพื้นที่ให้บริการออกเป็นพื้นที่ขนาดเล็กที่เรียกว่าเซลล์ สัญญาณอนาล็อกของเสียงและภาพจะถูกแปลงเป็นข้อมูลดิจิตอลในโทรศัพท์และส่งข้อมูลออกไปในรูปของกระแสบิต 

อุปกรณ์สื่อสารระบบ 5G ทั้งหมดในเซลล์จะสื่อสารด้วยคลื่นวิทยุด้วยแถวของเสาอากาศในพื้นที่และตัวรับและส่งสัญญาณอัตโนมัติในเซลล์ผ่านช่องความถี่ที่กำหนดโดยตัวรับส่งสัญญาณและกลุ่มความถี่ที่ใช้แล้วสามารถนำกลับมาใช้ในเซลล์อื่นได้

เสาอากาศในพื้นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตโดยใช้ใยแก้วนำแสง Bandwidth สูงหรือการเชื่อมต่อ Backhaul แบบไร้สาย สัญญาณที่ข้ามระหว่างเซลล์ถูกส่งต่อข้อมูลไปยังเซลล์ใหม่โดยอัตโนมัติ  

ระบบ 5G สามารถรองรับอุปกรณ์ได้มากถึงหนึ่งล้านเครื่องต่อตารางกิโลเมตร ในขณะที่ระบบเครือข่าย 4G รองรับอุปกรณ์ได้สูงสุดเพียงหนึ่งแสนเครื่องต่อตารางกิโลเมตรเท่านั้น

ผู้ให้บริการ 5G ใช้คลื่นมิลลิเมตรเพื่อเพิ่มความจุและปริมาณข้อมูลที่สูงขึ้น  คลื่นมิลลิเมตรมีช่วงคลื่นที่สั้นกว่าไมโครเวฟ ดังนั้นเซลล์จึงถูกจำกัดให้มีขนาดเล็กลง 

ระบบ MIMO (Multiple Input Multiple Output) แบบ Massive ซึ่งถูกนำมาปรับใช้ในระบบ 4G  โดยทั่วไปจะใช้เสาอากาศขนาดเล็ก 32 ถึง 128 เสาในแต่ละเซลล์ ด้วยความถี่และการกำหนดค่าที่เหมาะสม   5G สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ตั้งแต่ 4 ถึง 10 เท่า เพื่อส่งข้อมูลหลายบิตสตรีมได้พร้อมกัน 

ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Beamforming ระบบคอมพิวเตอร์ของสถานีฐานจะคำนวณเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับคลื่นวิทยุในการเข้าถึงอุปกรณ์ไร้สายแต่ละเครื่องอย่างต่อเนื่อง

รูปแบบการประยุกต์ใช้บริการ 5G

Enhanced Mobile Broadband (EMBB) ใช้งานใน 5G ก้าวหน้ากว่าบริการ Mobile Broadband  4G LTE พร้อมการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้น ปริมาณงานที่สูงขึ้นและความจุที่มากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อพื้นที่ที่มีปริมาณข้อมูลสูง เช่น สนามกีฬา ในเมืองและสถานที่จัดคอนเสิร์ต

รถยนต์ส่วนใหญ่จะมีการเชื่อมต่อเซลลูลาร์ 4G หรือ 5G สำหรับบริการต่างๆ มากมาย  

แม้ว่าการผ่าตัดระยะไกลจะดำเนินการผ่าน 5G ได้ แต่การผ่าตัดระยะไกลส่วนใหญ่จะดำเนินการในสถานที่ที่มีการเชื่อมต่อแบบไฟเบอร์ซึ่งโดยปกติจะเร็วกว่าและเชื่อถือได้มากกว่าการเชื่อมต่อแบบไร้สาย

ประสิทธิภาพของระบบ 5G

ความเร็วของ 5G จะอยู่ในช่วงประมาณ 50 Mbps ไปจนถึงมากกว่า 1 Gbps 

ช่วงคลื่นความถี่ต่ำคือช่วงความถี่ที่ดีที่สุดดังนั้นจึงครอบคลุมพื้นที่มากกว่าสำหรับ Site ที่กำหนด แต่มีความเร็วต่ำกว่าช่วงความถี่อื่น ๆ

ในระบบ 5G นั้น Air Latency ในการส่งถึงอุปกรณ์มีประมาณ 8–12 มิลลิวินาทีแต่ต้องมีการเพิ่มเวลาในการตอบสนองไปยัง Server ด้วย ผู้ให้บริการ Verizon รายงานเวลาในการตอบสนองของการใช้งาน 5G ในช่วงต้นคือ 30 มิลลิวินาที 

ระบบ 5G ใช้การเข้ารหัสสัญญาณแบบปรับได้เพื่อให้อัตราความผิดพลาดของบิตต่ำ 

ระบบ 5G เกี่ยวข้องกับมาตรฐาน IMT-2020 ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศซึ่งต้องการความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดตามทฤษฎีที่ 20 Gbps (จิกะบิตต่อวินาที) และความเร็วในการอับโหลด 10 Gbps

การปรับใช้งาน 5G กับเทคโนโลยีใหม่ๆ

นอกเหนือจากใช้งานเป็นเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5G ยังสามารถใช้กับเครือข่ายส่วนตัวที่มีแอปพลิเคชันในอุตสาหกรรม IoT , เครือข่ายระดับองค์กรและการสื่อสารที่สำคัญ

ประเทศแรกที่นำ 5G มาใช้ในวงกว้างคือเกาหลีใต้ในเดือนเมษายน 2019

Ericsson ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของสวีเดนคาดการณ์ว่าอินเทอร์เน็ต 5G จะครอบคลุมถึง 65% ของประชากรโลกภายในสิ้นปี 2025

Samsung เป็นซับพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดสำหรับสถานีฐาน 5G ในเกาหลีใต้เมื่อเปิดตัว โดยส่งมอบสถานีฐาน 53,000 แห่งจาก 86,000 สถานีฐานที่มีแผนติดตั้งทั่วประเทศในเวลานั้น

#ข่าวเทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุด #ข่าวเทคโนโลยี #เทคโนโลยีของระบบ5G