Metaverse อาจสร้างปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน

Metaverse อาจสร้างปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน

ตามที่ Mark Zuckerberg CEO ของ Meta ได้คิดไว้ ใน Metaverse ยังไม่มีมาตรฐานสำหรับเรื่องสิทธิมนุษยชนในโลกเสมือนจริง ทุกๆ แบบเป็นชุดของเทคโนโลยีที่เจ้าของผู้คิดค้นเท่านั้นที่กำหนด

ไม่มีใครที่เข้าสู่ Metaverse ใดมีความเป็นอิสระ ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของการควบคุมทางดิจิตอลของบริษัทต่างๆ เช่น Meta ที่สงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธเสรีภาพในการเคลื่อนไหวของใครก็ตาม

ใน Metaverse ยังไม่มีมาตรฐานเรื่องสิทธิมนุษยชน

ความกระหายที่จะเข้าร่วม Metaverse ในอนาคต ข่าวประชาสัมพันธ์แสดงให้เห็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่น่าตื่นเต้น และกิจกรรมทางสังคมจำนวนมากที่อาจถูกดึงดูดเข้าสู่โลกเสมือนจริงทั้งหมดหรือบางส่วน เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงก็ถึงเวลาที่จะต้องเริ่มคิดเกี่ยวกับประเด็นด้านจริยธรรมของ Metaverse แล้ว

ข้อเสนอสำหรับ Metaverse โดย Zuckerberg คือคุณสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ โดยผู้ออกแบบจะเสนอเสื้อผ้าที่แตกต่างกันและอื่นๆ แต่การเลือกเฉดสีผิวที่เฉพาะเจาะจง เช่น การเลือกอิโมจิที่ต้องการนั้นไม่สามารถทำได้และไม่ใช่เอกสิทธิ์ของคุณ

ทุกตัวตนในโลกเสมือนจริงคือการสร้างฐานข้อมูลส่วนตัว มนุษย์แต่ละคนไม่มีอำนาจควบคุมฐานข้อมูลนั้น พวกเขาสามารถเลือกจากเมนู และในโลกของ Zuckerberg บางทีพวกเขาอาจจะสามารถมีสิ่งที่ให้เลือกจากการเข้าสู่เมนูได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่บริษัทตัดสินใจถือเป็นที่สิ้นสุด

ใน Metaverse คุณจะเป็นอะไรก็ได้แต่ไม่สามารถควบคุมได้

คุณสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่คุณต้องการใน Metaverse แต่คุณไม่สามารถควบคุมได้

ในระดับที่กว้างขึ้น คุณสมบัติของ Meta, Facebook และ Instagram และ WhatsApp ยังไม่เชื่อมโยงกับส่วนที่เหลือของอินเทอร์เน็ต 

ผู้คนจะไม่มีตัวตนจริงใน Metaverse ข้อมูลประจำตัวของพวกเขาคือรูปแบบของฐานข้อมูล ผู้คนเกิดภาพลวงตาว่าตนเองมีตัวตนจริง แต่ไม่มีการควบคุมและไม่มีเอกสิทธิ์ พวกเขาไม่มีตัวตนในความหมายจริง พวกเขาเป็นเพียงเบี้ยของเจ้าของฐานข้อมูล

ในทำนองเดียวกัน การกระทำใดๆ ใน Metaverse จะเป็นเพียงภาพลวงตาของความเป็นอิสระ บริษัทที่เป็นเจ้าของฐานข้อมูลยังคงควบคุมแม้แต่อากาศที่คุณหายใจเข้าไปใน Metaverse

ข่าวดีก็คือ มีวิธีแก้ไขเงื่อนไขทั้งหมดนั้นเป็นแนวทางที่จะส่งเสริมเอกสิทธิ์ของแต่ละบุคคล และสร้างพื้นฐานของสิทธิมนุษยชน คำตอบคือการขยายงานที่ยังไม่เสร็จสิ้นของอินเทอร์เน็ต

อินเทอร์เน็ตใช้โปรโตคอลที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดที่นำมาใช้เป็นโอเพ่นซอร์ส คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในโลกปฏิบัติตามโปรโตคอลดังกล่าวเพื่อเข้าร่วมในอินเทอร์เน็ตได้

การละเลยอย่างหนึ่งของผู้สร้างอินเทอร์เน็ตคือการไม่ยอมให้มีโปรโตคอลส่วนบุคคลเพื่อให้ผู้คนสามารถควบคุมสิ่งที่เป็นตัวตนดิจิตอลของพวกเขาได้จริง โปรโตคอลส่วนบุคคลจะช่วยให้บุคคลสามารถควบคุมตัวตนได้อย่างสมบูรณ์ทั้งในรูปของคำพูด ข้อความและรูปแบบอื่น ๆ ทางดิจิตอลของพวกเขา

สังคมจำเป็นต้องพัฒนาอินเทอร์เน็ตให้สมบูรณ์กว่าที่ยังเป็นอยู่ และกำหนดระเบียบวิธีส่วนบุคคลเพื่อประกันสิทธิมนุษยชนของผู้เข้าร่วม

ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าความทะเยอทะยานของโซเซียลมีเดียใน Metaverse คือการแทนที่อินเทอร์เน็ตแบบเปิด คำกล่าวของ Zuckerberg หลายครั้งคือ Metaverse จะ “เป็นผู้สืบทอดอินเทอร์เน็ตบนมือถือ” และ “อินเทอร์เน็ต Version ถัดไป”

ในวิดีโอของเขาซึ่งแนะนำ Metaverse นั้น Zuckerberg ตำหนิผู้ที่ไม่กล้าที่จะจินตนาการถึงอนาคต แต่ความจริงก็คือคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ Zuckerberg เป็นคนตัดสินอนาคตสำหรับพวกเขามากกว่า

หากกิจกรรมใดจะเกิดขึ้นในโลกเสมือนจริง ถึงเวลาที่สังคมจะต้องผลักดันผลประโยชน์ของบุคคลในเชิงพาณิชย์กลับคืนมา โดยยืนยันความเป็นอิสระของมนุษย์ในการที่ปกป้องพวกเขาจากการหาผลประโยชน์ที่โหดร้ายในโลกเสมือนจริง

#ข่าวเทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุด #ข่าวเทคโนโลยี #Metaverse